SNNP โชว์ผลงาน ครึ่งปีแรกปี 2564 มีกำไรสุทธิ 254.7 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด ตอกย้ำรากฐานธุรกิจ แบรนด์พอร์ตโฟลิโอ การผลิตและจัดจำหน่ายสุดแข็งแกร่ง
‘บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง’ หรือ SNNP โชว์ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2564 ทำรายได้รวม 2,312.1 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 2,170.4 ล้านบาท เติบโต 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ทำได้ 254.7 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดกว่า 4,000% ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวอันดับหนึ่ง มีคุณภาพและแบรนด์เป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย พร้อมมีฐานการผลิตและระบบจัดจำหน่ายสินค้าที่แข็งแกร่งครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน มั่นใจศักยภาพทางธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งพร้อมฝ่าวิกฤต Covid-19 และส่วนหนึ่งมาจากกำไรพิเศษจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา
นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNPผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 (เมษายน-มิถุนายน) ทำรายได้ในส่วนที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯเติบโตได้ทั้งรายได้จากการขายในประเทศและต่างประเทศ เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 (มกราคม - มีนาคม) ภายใต้สถานการณ์ภายนอกที่มีความผันผวนจาก COVID-19 และมีอัตราการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากฐานธุรกิจที่พัฒนาขึ้นมาตลอดช่วง 5 ปี ให้มีความเข้มแข่ง ทั้งต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการที่ดีขึ้น ประกอบกับงบการเงินรวมของบริษัทฯในไตรมาส 2/2564 ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีโดยไม่ได้รวมรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนของบริษัทฯในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศอีกต่อไป ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลง ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 เป็นผลการดำเนินงานที่สะท้อนให้เห็นศักยภาพในธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าที่มีฐานธุรกิจในประเทศที่เข้มแข็งพร้อมที่จะเติบโตต่อไปในต่างประเทศในอนาคต
ทั้งนี้ ผลดำเนินการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ทั้งในด้านคุณภาพและการบริการตลอดกว่า 30 ปี โดยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย รวมทั้งการมีฐานการผลิตและระบบจัดจำหน่ายสินค้าที่แข็งแกร่งครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุน ซึ่งผลักดันให้แบรนด์พอร์ตโฟลิโอมีการเติบโตในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่และเบนโตะสามารถขยายตัวได้อย่างโดดเด่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
นายวิวรรธน์กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจจัดจำหน่ายและการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเชิงรุก หลังจากได้ลงทุนก่อตั้งธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้บริษัท สิริโปร จำกัด ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันมีศูนย์กระจายสินค้า 11 แห่งทั่วประเทศ พัฒนาคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทีมหน่วยรถเงินสดและบุคลากร เพื่อเข้าถึงกลุ่มร้านค้าปลีกได้ประมาณ 70,000 ร้านค้า และร้านค้าส่งดั้งเดิม 3,600 ร้านค้า เพื่อรองรับการให้บริการกระจายสินค้ากับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กได้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ รวมการมีพันธมิตรที่เข้มแข็งทั้งทีมผู้บริหารที่ร่วมก่อตั้งบริษัทฯมาด้วยกันตั้งแต่ปี 2562 และพันธมิตรรายใหม่อย่าง บริษัท บุญรอด เทรดดิ้งค์ จำกัด ที่เข้ามาร่วมทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถนำพาให้ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเติบโตมาเป็นผู้เล่นแนวหน้าในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าระดับประเทศได้ในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า ในส่วนที่ธุรกิจหลักของบริษัทฯที่เป็นผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มที่หลากหลายนั้น มีรากฐานทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่วางไว้อย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย โดยยังให้ความสำคัญในการต่อยอดธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ที่จะมีฐานธุรกิจที่ประกอบด้วย โรงงานผลิตสินค้า ช่องทางการกระจายสินค้าที่ครอบคลุม และการสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคในพื้นที่ และยังเตรียมตัววางแผนที่จะขยายการขายสินค้าในกลุ่มประเทศอื่นๆที่เป็นฐานประเทศส่งออกให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยแม้ว่าสถาณการณ์ภายนอกยังมีความเสี่ยง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่เราเชื่อว่าเรามีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมในเชิงธุรกิจในหลายๆ ที่พร้อมจะฟันฝ่าอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปและจะสามารถเติบโตให้อย่างก้าวกระโดดเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย