การใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล กลุ่มสินค้าที่ประชาชนจะนำไปซื้อเป็นอันดับแรก ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะกระตุ้นยอดขายสินค้า บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) โตก้าวกระโดด

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนต่อโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 88.2% อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะได้รับสิทธิโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจากรัฐบาล ขณะที่อีก 9.2% ไม่อยู่ในเงื่อนไข และมีเพียง 2.6% ที่ไม่แน่ใจ

โดยเมื่อถามถึงลักษณะการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 64.1% ระบุว่า จะใช้ทั้งหมดในครั้งเดียว รองลงมา 21.2% ระบุว่า ไม่แน่ใจ และอีก 14.7% ระบุว่า จะแบ่งใช้หลายครั้ง

เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่จะใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 79.3% ตอบว่าจะใช้ในเดือนที่ 1 รองลงมา กลุ่มตัวอย่าง 65.2% ตอบว่า จะใช้ในเดือนที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง 62.6% ตอบว่าจะใช้เดือนที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง 39.9% ตอบว่า จะใช้ในเดือนที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง 12.6% ตอบว่า จะใช้ในเดือนที่ 5 และกลุ่มตัวอย่าง 8.5% ตอบว่าจะใช้ในเดือนที่ 6

สำหรับประเภทสินค้า 5 อันดับแรก ที่ประชาชนจะนำเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปซื้อ พบว่า อันดับ 1 สินค้าอุปโภค-บริโภค เช่น อาหาร เสื้อผ้า อันดับ 2 สินค้าเพื่อการศึกษา อันดับ 3 เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) ของใช้ส่วนตัว เป็นต้น อันดับ 4 สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร/เพื่อการค้า อันดับ 5 ยารักษาโรค

สินค้าอุปโภค-บริโภค เป็นกลุ่มที่ผู้ได้รับเงินดิจิทัลจะนำไปใช้เป็นอันดับแรก สอดคล้องกับการทำธุรกิจของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ที่จะได้รับอานิสงส์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว เช่น เยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนน ภายใต้ตราสินค้าเจเล่ ปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น และปลาเส้น ภายใต้ตราสินค้าเบนโตะ และขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งภายใต้ตราสินค้าดอกบัว โลตัส เป็นต้น

ด้านบล.หยวนต้า คาดกำไรไตรมาส 2/67 บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) อยู่ที่ 164 ลบ. (+4.2% QoQ, +4.8% จากปีก่อน) รายได้ในประเทศเติบโต แต่ในต่างประเทศเติบโตสูงกว่า เนื่องจากเวียดนามไม่มีวันหยุดยาวเหมือนไตรมาส 1 และคาดกำไรสุทธิครึ่งหลังปี 67 กลับมา New high ได้ทุกไตรมาส จากการเบิกจ่ายงบประมาณ ช่วยหนุนการบริโภคในประเทศ ขณะที่ได้แรงเสริมอีกทางจากฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าจะเริ่มมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/67

เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SNNP โดยกำไรในช่วงครึ่ปีแรกจะเติบโตเพียง 3 - 4% ทำให้หากการบริโภคในประเทศในครึ่งหลังปี 67 ยังฟื้นช้ากว่าที่คาดทำให้ประมาณการอาจมี Donwsiderisk ราว 6% แต่มี Upside risk จากฟิลิปปินส์ และ Digital wallet รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศ ท าให้ประมาณการของเรายังมีความเป็นไปได้ ราคาปัจจุบัน PER67 ต่ำเพียง 17.3 เท่า