บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดําเนินธุรกิจให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง สอดคล้องและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างสมดุล มั่นคงและยั่งยืน

นโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อม

  1. ปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และพลังงานอย่างยั่งยืน คุ้มค่า มีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย รวมทั้งป้องกันและควบคุมมลพิษที่แหล่งกําเนิด
  2. ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกําหนดต่าง ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
  3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานและผู้เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งสร้างความตระหนักในการร่วมกันรักษา สิ่งแวดล้อม เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  4. ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยการกําหนด ติดตาม และบรรลุผลสําเร็จตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และแผนงานการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กร

การใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทตระหนักถึงความสําคัญของการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมุ่งเน้นให้มีแนวทางปฏิบัติการอนุรักษ์พลังงานแก่พนักงานภายในองค์กร เพื่อทําให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการดําเนินการอนุรักษ์พลังงาน และปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งมุ่งไปสู่เป้าหมายการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท และการประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีรายละเอียดแสดงดังต่อไปนี้

  1. การอนุรักษ์พลังงานถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการดําเนินงานขององค์กร และผู้บริหารองค์กรต้องให้ความสําคัญในการปฏิบัติการจัดการพลังงาน
  2. บริษัทสนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงาน โดยการปฏิบัติตามแนวทางการจัดการพลังงาน เพื่อมุ่งเน้นการลดการใช้พลังงาน และต้นทุนการผลิต
  3. บริษัทกําหนดให้มีการนําเสนอแผนการอนุรักษ์พลังงานจากแผนกงานต่าง ๆ เพื่อร่วมพิจารณาตั้งเป็นเป้าหมายดัชนีการใช้พลังงานของบริษัท โดยมีการทบทวนเป้าหมายตามการใช้ พลังงานที่เหมาะสม
  4. มุ่งเน้นปฏิบัติตามแนวทางการจัดการพลังงานของ พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2550) เพื่อให้มีการอนุรักษ์พลังงานภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
  5. กําหนดให้มีการทบทวนนโยบายการจัดการพลังงาน เป้าหมายลดการใช้พลังงาน และแผนปฏิบัติงานการอนุรักษ์พลังงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  6. ส่งเสริมให้มีการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจแก่พนักงานภายในองค์กร เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและแนวทางปฏิบัติ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
  7. ทําการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานขององค์กร เพื่อมุ่งไปสู่การใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
เป้าหมายและผลการลดการซื้อพลังงานไฟฟ้า

บริษัทมีตั้งเป้าหมายการลดการซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าลงร้อยละ 0.05 ทุกปีเมื่อเทียบกับยอดขาย (Electricity Use/Sales)

ผลการลดการซื้อไฟฟ้า 2566
ปี 2565 2566
ค่าไฟจากการไฟฟ้า (ล้านบาท) 89.89 94.19
ยอดขาย (ล้านบาท) 5,556.10 6,015.90
% to sales 1.618% 1.566%
ลดได้ -0.052%
เปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้า
หน่วย: กีโลวัตต์ต่อชั่วโมง kWh
เปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้า 2565 2566 % Change
พลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้า ฯ 22,610,720 21,035,716 -6.97%
พลังงานจากแสงอาทิตย์ 2,456,961 2,980,141 21%

การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทตระหนักถึงความสําคัญของน้ำในทุกมิติ โดยมีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงแหล่งน้ำที่สะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างถูกสุขอนามัย ภายใต้แนวคิดที่ว่า “หากไม่มีการบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืนอาจจะเกิดความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์ ขาดแคลนน้ำต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรวมถึงการดําเนินธุรกิจของบริษัท”

บริษัทได้กําหนดหลักปฏิบัติในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า โดยมีสาระสําคัญดังนี้

  1. กําหนดให้น้ำเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักที่สําคัญทางธุรกิจ
  2. บูรณาการความร่วมมือกันทั้งในบริษัทและบริษัทย่อย ในด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
  3. ส่งเสริมโครงการประหยัดน้ำและมุ่งเน้นการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการนําน้ำจืดจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้
  4. ปฏิบัติตามข้อกําหนดและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ เช่น การดึงน้ำมาใช้ และการระบายน้ำทิ้ง
  5. ดําเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 5 ด้านการจัดการน้ำ และสุขาภิบาล (Clean water and sanitation)
  6. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยให้ความรู้รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและ การอนุรักษ์นํ้า
ปริมาณการใช้น้ำที่บำบัดแล้ว
หน่วย: ลบ.ม.
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ษ. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รวม เฉลี่ย
2565 - - - - - - - - - - - 11 11 11
2566 21 28 25 27 24 25 26 24 20 15 20 19 274 22.83

การกําจัดของเสียที่เกิดจากกระบวนการธุรกิจ

บริษัทมีนโยบายในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยลดปริมาณการสูญเสียจากกระบวนการผลิตที่ต้องทิ้ง ร่วมกับลดปริมาณการใช้ บรรจุภัณฑ์ทั้งที่เป็นกระดาษ พลาสติกที่เกินความจําเป็น และ/หรือใช้ครั้งเดียว เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องนําไปสู่การฝังกลบ โดยการเสาะแสวงหาแนวทางในการนําขยะมาใช้ประโยชน์ รวมถึงการนําขยะมาหมุนเวียนเพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับของเสีย ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

มีการดําเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิต ดังนี้

1. โครงการลดปริมาณของเสียน้ำมะพร้าวค้างท่อส่ง

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมะพร้าว มีระบบการลําเลียงน้ำมะพร้าวโดยใช้ปั๊มส่งผ่านท่อ แต่เนื่องจากระยะท่อส่งที่ค่อนข้างยาว จึงมีน้ำมะพร้าวส่วนหนึ่งที่เป็นของเสียเนื่องจากติดค้างอยู่ภายในท่อส่ง ทางฝ่ายผลิตจึงมีแนวคิดในการลดของเสียด้วยการทําระบบไล่ ท่อส่งด้วยลูกยาง Spong และใช้ลมดันไล่ลูกยางไปตามท่อส่ง ส่งผลให้ไม่มีของเสียน้ำมะพร้าวที่ติดค้างท่อส่ง สามารถลดปริมาณ ของเสียน้ำมะพร้าวค้างท่อส่งลงได้ 170 Kg/วัน (4,420 Kg/เดือน)

2. โครงการลดการใช้พลาสติกในขั้นตอนกระบวนการบรรจุหีบห่อผลิตภัณฑ์บรรจุขวด

ในขั้นตอนกระบวนการบรรจุหีบห่อผลิตภัณฑ์บรรจุขวด มีขั้นตอนกระบวนการนําเอาฟิล์ม PE มาใช้ในการห่อหุ้มแพ็กผลิตภัณฑ์ จึงได้ มีแนวคิดในการลดปริมาณการใช้พลาสติกลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยทําการทดลองลดขนาดความกว้างของฟิล์มพลาสติก PE จากเดิม ขนาดหน้ากว้าง 250 มิลลิเมตร ให้มีขนาดความกว้างลดลงเหลือขนาด 240 มิลลิเมตร (ลดลง 10 มิลลิเมตร) หรือส่วนต่างน้ำหนักฟิล์ม PE ที่ลดลง 0.001 Kg/แพ็ก โดยขนาดฟิล์มพลาสติก PE ที่ลดลงจะยังคงสามารถห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ได้ตามปกติ

3. โครงการเปลี่ยน Packing size สารเคมี

เพื่อเป็นการลดปริมาณการกําจัดกากอุตสาหกรรมถังบรรจุสารเคมีสําหรับการทําความสะอาดไลน์ผลิต ซึ่งถือเป็นขยะอันตราย จึงมี แนวคิดในการเปลี่ยน Packing size ของสารเคมี จากการใช้ถังขนาด 25 กิโลกรัม มาเป็นถัง 200 ลิตร สามารลดการใช้ถังขนาด 25 กิโลกรัม ที่จํานวน 57 ถัง เหลือใช้ถัง 200 ลิตร เพียง 7 ถัง

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัทพิจารณาและบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) โดยตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดําเนินธุรกิจต่อหน่วยการผลิต พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน เช่น เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบการรายย่อย คู่ค้า ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ในการลดผลกระทบและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพ ภูมิอากาศ ส่งเสริมการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนดําเนินกิจกรรมเพื่อลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนโครงการการรับมือกับภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

บริษัทได้คํานวณและได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร หรือ Carbon Footprint for Organization: CFO กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สําหรับรอบระยะเวลา 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ดังต่อไปนี้

หน่วย: ตันคาร์บอนไดออกไซด์
Scope 1 Scope 2 Scope 3 Scope 1+2
23,154 11,514 64,119 34,668

การจัดการวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ

บริษัทให้ความสําคัญกับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาวัตถุดิบที่ใช้ การสรรหาและพัฒนาคู่ค้าให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยบริษัทมุ่งมั่นในการผลักดันให้คู่ค้าหลักได้ปฏิบัติตาม และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแนวปฏิบัติของบริษัท ในการดําเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม การเคารพสิทธิมนุษยชน มีการดูแลอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของลูกจ้าง รวมถึงการให้ความสําคัญต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยบริษัทมีการจัดทํา “แนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า SNNP” หรือ “SNNP Supplier Sustainable Code of Conduct ซึ่งมีสาระสําคัญ ดังนี้

  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายการดําาเนินธุรกิจ
  • จริยธรรมทางธุรกิจ
  • ความรับผิดชอบต่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม
  • แรงงานและหลักสิทธิมนุษยชนสากล
  • ความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม
  • การร้องเรียน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รายงานความยั่งยืน

รายงานล่าสุดของเราเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานอย่างยั่งยืน โดยเน้นถึงความสำเร็จและเป้าหมายด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม