ประวัติบริษัท

กรกฎาคม

• บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 240 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 9.2 บาท โดยบริษัทฯ ได้รับเงินสุทธิทั้งสิ้น 2,138.1 ล้านบาท เงินที่ได้จากเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทฯ ได้ใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินให้เข้มแข็งรวมถึงการลดต้นทุนทางการเงิน โดยการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และใช้ลงทุนเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม
• บริษัทฯ ได้ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “SNNP”

ตุลาคม

• พัฒนาและเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่เบนโตะปลาเส้นอบกรอบ ภายใต้เครื่องหมายการค้าเบนโตะ และขนมน่องไก่ รสหมึกทรงเครื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น

พฤศจิกายน

• พัฒนาและเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่เจเล่ชิววี่ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตเยลลี่ในสไตล์ Jelly Gummy โดยมุ่งเน้นเพื่อตอบโจทย์วัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่มีความเทรนดี้ ชื่นชอบความแปลกใหม่ และรักสุขภาพ

ธันวาคม

• พัฒนาและเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่เจเล่ผสมชาเนสที ซึ่งเป็นการร่วมมือกับแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลกอย่าง “เนสท์เล่” ที่พัฒนาสูตรร่วมกัน
• พัฒนาและเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ใหม่โลตัสน่องไก่ผสมใบกัญชา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง กัญชา ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทฯ

มิถุนายน

• บริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดของ S.C Food Trading Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรกัมพูชา จาก SCFP ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมและเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยตกลงซื้อหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 102.5 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นจำนวนเงิน 102,500 เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 3.2 ล้านบาท ทำให้ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน S.C Food Trading Co., Ltd. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด

มกราคม

• บริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท สิริ โปร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทย และประกอบกิจการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค จำนวน 35.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.0 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

กุมภาพันธ์

• ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากจำนวน 235.0 ล้านบาท เป็น 360.0 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 1.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.0 บาท เป็นจำนวนเงิน 125.0 ล้านบาท บริษัทฯ ได้รับชำระหุ้นและได้จดทะเบียนการออกหุ้นเพิ่มทุนแล้วกับกระทรวงพาณิชย์
• ทำการจดทะเบียนเพิ่มทุนใน SCFP จากเดิม 6.0 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 9.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อประกอบกิจการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารว่างและเครื่องดื่ม บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 60.0 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วของ SCFP

มีนาคม

• ร่วมลงทุนกับคู่ค้าในประเทศเวียดนาม โดยจัดตั้ง S.T. Food Marketing Co., Ltd. มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยลงทุนผ่านบริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 60.0 ของทุนจดทะเบียน โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวในประเทศเวียดนาม

เมษายน

• ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้ SNNPI เข้าลงทุนเพิ่มใน สิริ โปร จากการจดทะเบียนเพิ่มทุนของ สิริ โปร จากเดิม 50.0 ล้านบาท เป็น 100.0 ล้านบาท โดยให้สิทธิการเพิ่มทุนบางส่วนให้แก่บริษัท แอ๊บโซลูท ปาล์ม จำกัด ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทผ่าน SNNPI เท่ากับร้อยละ 60.0 ของทุนจดทะเบียน

พฤษภาคม

• บริษัทฯ จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) และ มีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทฯ จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 100.0 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.5 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จำนวน 180 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ หรือคิดเป็น 90.0 ล้านบาท

กรกฎาคม

• บริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SNNPI) ได้จ่ายชำระค่าหุ้นแก่ S.T. Food Marketing Co., Ltd. (STFM) เป็นจำนวนเงิน 0.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 27.7 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 25 ของสัดส่วนเงินทุนของบริษัทฯ ใน STFM
• STFM เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินในประเทศเวียดนามเพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตสินค้า

สิงหาคม

• ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ SNNPI ซื้อเงินลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 10.0 กลับจากบริษัท แอ๊บโซลูท ปาล์ม จำกัด และส่งผลให้กลุ่มกิจการยังคงสัดส่วนการถือหุ้นที่ร้อยละ 70.0 ของทุนจดทะเบียนของ สิริ โปร

พฤศจิกายน

• ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SNNPI) จำนวน 480.0 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 4.8 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.0 บาท

ธันวาคม

• บริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SNNPI) ได้จ่ายชำระค่าหุ้นแก่ S.T. Food Marketing Co., Ltd. (STFM) เป็นจำนวนเงิน 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งครบตามสัดส่วนของเงินลงทุนทั้งหมดของบริษัทฯ ใน STFM

มกราคม

• จัดตั้งบริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SNNPI) ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจให้บริการด้านการบริหาร หรือด้านเทคนิคแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน ต่อมา เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560 บริษัทฯ เพิ่มเงินลงทุนเพิ่มใน SNNPI จำนวน 19.0 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วของ SNNPI เพิ่มเป็น 20.0 ล้านบาท

ตุลาคม

• บริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SNNPI) เข้าซื้อหุ้นสามัญของ Harirama Ventures Inc. (Harirama) ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนในประเทศฟิลิปปินส์ และประกอบกิจการจัดจำหน่ายอาหารว่างและเครื่องดื่ม โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 80.0 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 Harirama Ventures Inc.ยังมิได้มีการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์

พฤศจิกายน

• จัดตั้งบริษัท ศรีนานาพร ดิสทริบิวชั่น จำกัด (SDIS) ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบกิจการจัดจำหน่ายอาหารว่างและเครื่องดื่ม (กระจายสินค้าผ่านหน่วยรถ)

เมษายน

การจัดตั้งธุรกิจในประเทศกัมพูชา (เมษายน 2559 - พฤศจิกายน 2561)

• เมษายน 2559 จัดตั้งบริษัท STVV Development Co., Ltd. (STVV) โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ และผู้ลงทุนอีกราย มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในร้อยละ 49.0 โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศกัมพูชา
• มิถุนายน 2560 จัดตั้งบริษัท S.C Food Products Co., Ltd. (SCFP) ซึ่ง SCFP ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับ STVV เพื่อให้SCFP เช่าที่ดินสำหรับก่อสร้างโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายขนมในประเทศกัมพูชา โดยมีระยะเวลาเช่า 50 ปี
• พฤศจิกายน 2561 จัดตั้งบริษัท S.C Food Trading Co., Ltd. (SCFT) ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนในประเทศกัมพูชา โดยลงทุนผ่าน SCFP ประกอบกิจการจัดจำหน่ายอาหารว่างและเครื่องดื่ม
• ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 ธุรกิจในประเทศกัมพูชาได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พฤษภาคม - พฤศจิกายน

• การดำเนินการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ ให้ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวได้รับการดำเนินการโดยบริษัทฯ เพียงบริษัทเดียว จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับการดำเนินการโดยบริษัทผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 8 บริษัท โดยบริษัทฯ ได้ทำการซื้อ และเช่าระยะยาวในสินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจทั้งหมด และรับโอนพนักงานมาจากบริษัทอื่นอีก 6 บริษัทในกลุ่มที่เดิมดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว

จัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการจัดจำหน่าย 2 บริษัท ได้แก่

• บริษัท วี.เอส.ฟู้ดส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (VSF) ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1.0 ล้านบาท
• บริษัท เอส.เอ็น.เอ็น.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด (SNNP Inter) ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 2.0 ล้านบาท

จัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการผลิต 2 บริษัท ได้แก่

• บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารศรีสยาม จำกัด (SSF) ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20.0 ล้านบาท
• บริษัท สยามราชบุรีอุตสาหกรรม จำกัด (SRI) ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น จำนวน 10.0 ล้านบาท

ก่อตั้งบริษัทเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว 3 บริษัท ได้แก่

• ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1.0 ล้านบาท
• บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกิมเฮง จำกัด (KHF)ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10.0 ล้านบาท
• บริษัท สยามเดลี่ฟู้ดส์ จำกัด (SDF) ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท